วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556

บทที่ 3 เทคโนโลยีสำนักงาน

  ความหมายของเทคโนโลยีสำนักงาน

         เทคโนโลยีสำนักงาน (Office Technology ) หมายถึง เทคโนโลยีระบบคอมพิวเตอร์ และ เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมที่ผนวกเข้าด้วยกัน เพื่อใช้ในการบริหารงานสำนักงาน ทำให้เกิดความรวดเร็ว ความสะดวกสบาย ความคล่องตัว ตอบสนองผู้ใช้ได้ดี ตลอดจนการใช้ข้อมูลข่าวสารย่างถูกต้องแม่นยำเพื่อนำมาซึ่งการตัดสินใจที่ดีและถูกต้อง,ประหยัด  อย่างประสิทธิภาพ



เทคโนโลยีที่เกี่วยข้องกับสำนักงานกี่ประเภท
สำนักงานอัตโนมัติมีอยู่ 3 ประเภท คือ 
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ หมายถึง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหมด
เทคโนโลยีสำนักงานได้แก่ เครื่องพิมพ์ดีดที่ทำสำเนาได้หลายชุด เครื่องถ่ายเอกสาร เป็นต้น
เทคโนโลยีการสื่อสารได้แก่ โทรศัพท์ การสื่อสารผ่านดาวเทียม

เครื่องใช้สํานักงานต่างๆที่ควรรู้จัก คือ
-เครื่องถ่ายเอกสาร เป็นอุปกรณ์สำนักงานอย่างหนึ่งซึ่งใช้ในการสำเนาเอกสาร โดยการใช้ความร้อน หรือหลักไฟฟ้าสถิต ในการอ่านเอกสารต้นฉบับและ พิมพ์เอกสารอีกฉบับออกมา


                                     

-เครื่องคอมพิวเตอร์  หมายถึง เครื่องอุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่ง ที่มีการทำงานแบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่เหมือนสมองกล สามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งที่ง่ายและซับซ้อนตามคำสั่งของโปรแกรม ขั้นตอนการทำงานจะประกอบด้วย การรับโปรแกรมและข้อมูลในรูปแบบที่เครื่องสามารถรับได้ และทำการประมวลผล โดยทำการเปรียบเทียบจนกระทั่งได้ผลลัพธ์ จากนั้นนำผลลัพธ์ที่ได้ไปแสดงผลที่อุปกรณ์แสดงผล เช่น จอภาพหรือเครื่องพิมพ์ เป็นต้น

                                         


เครื่องพิมพ์ (Printer) 
เครื่องพิมพ์ (Printer) เป็นอุปกรณ์ที่นิยมใช้กันมาก และมีให้เลือกหลากหลายชนิดขึ้นกับคุณภาพและความละเอียดของการพิมพ์ ความเร็วในการพิมพ์ ขนาดกระดาษสูงสุดที่สามารถพิมพ์ได้ และเทคโนโลยีที่ใช้ในการพิมพ์

                                          

-พล็อตเตอร์ (plotter) ใช้วาดหรือเขียนภาพสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดสูง ๆ เนื่องจากพลอตเตอร์จะใช้ปากกาในการวาดเส้นสายต่าง ๆ ทำให้ได้เส้นที่ต่อเนื่องกันตลอด ในขณะที่เครื่องพิมพ์ทั่วไปจะใช้วิธีพิมพ์จุดเล็ก ๆ ประกอบขึ้นเป็นเส้น ทำให้ได้เส้นที่ไม่ต่อเนื่องกันสนิท พลอตเตอร์นิยมใช้กับงานออกแบบทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมที่ต้องการความสวย งามและความละเอียดสูง มีให้เลือกหลากหลายชนิดโดยจะแตกต่างกันในด้านความเร็ว ขนาดกระดาษ และจำนวนปากกาที่ใช้เขียนในแต่ละครั้ง มีราคาแพงกว่าเครื่องพิมพ์ธรรมดามาก

                                             

-เครื่องสแกนเนอร์ (Scanner) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้อ่าน หรือสแกนภาพ สแกนข้อมูลเอกสารต่าง ๆ เข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์คะ ด้วยการแปลงข้อมูลแบบอะนาล็อกให้เป็นดิจิตอล ด้วยการส่องแสงไปยังวัตถุหรือเอกสารที่ต้องการสแกน  จากนั้นแสงที่ส่องไปยังวัตถุจะสะท้อนกลับมาและถูกส่งผ่านไปที่ เซลล์ไวแสง ซึ่งจะทำการตรวจจับความเข้มของแสงที่สะท้อนออกมาจากวัตถุและแปลงให้อยู่ในรูปของข้อมูลดิจิตอล  ภาพหรือวัตถุที่ได้จากการสแกนก็จะอยู่ในฟอร์แมตของไฟล์รูปภาพ เช่น jpg, bmp

                                              

-สำรองไฟ (ups) 

บทที่ 2 สำนักงานอัตโนมัติ


สำนักงานอัตโนมัติ

          
(1)สำนักงานอัตโนมัติ หมายถึง?

               สำนักงานอัตโนมัติ (Office Automation) คือ กระบวนการในการนำเทคโนโลยีมาช่วยคนในสำนักงานให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เทคโนโลยีที่นำมาใช้นั้นรวมถึงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สำนักงานอัตโนมัติ เช่น เครื่องพิมพ์ดีดชนิดต่างๆ ที่อาศัยเทคโนโลยีชั้นสูง การสื่อสารด้วยเทคโนโลยีทางการสื่อสาร เช่น ระบบโทรศัพท์อัตโนมัติดิจิตอล โทรสาร การสื่อสารผ่านดาวเทียม ไฟเบอร์ออฟติค ฯลฯ การนำระบบสำนักงานอัตโนมัติมาใช้จะช่วยให้องค์การ
ได้ข้อมูลที่รวดเร็วทันต่อความต้องการ ข้อมูลมีความถูกต้องมากขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ลดเวลาในการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการติดต่อสื่อสาร ในขณะเดียวกันก็ลดงานด้านการจัดทำเอกสารและการจัดเก็บเอกสาร ลดปริมาณกระดาษที่ใช้ในสำนักงานให้ลดน้อยลง



(2) ลักษณะของสำนักงานอัตโนมัติ?


             ลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งของสำนักงานอัตโนมัติที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ การใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางของระบบครบวงจร การนำสิ่งประดิษฐ์ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในขั้นตอนการปฏิบัติงานำสำนักงานอย่างกว้างขวาง จากการเปรียบเทียบสำนักงานเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมากับสำนักงานในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีการใช้เครื่องใช้สำนักงานที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์มากกว่า และถ้าเปรียบเทียบสำนักงานปัจจุบันกับสำนักงานในอนาคตจะพบว่า สำนักงานในอนาคตมีการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์คล้ายกับปัจจุบัน แต่จะมีความสะดวกและคล่องตัวในการใช้มากกว่า และมีสิ่งที่น่าสังเกตอยู่ข้อหนึ่งคือ ยิ่งมีการใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์มากเท่าไหร่ การใช้บุคลากรในการปฏิบัติงานจะน้อยลงเท่านั้น เมื่อจำนวนบุคลากรลดลง นักวางแผนสำนักงานจำนวนมากได้คาดการณ์กันว่าอัตราเพิ่มของกระดาษที่ใช้ในสำนักงานในอนาคตจะลดลงเช่นกันลักษณะพิเศษอื่นๆ ของสำนักงานในอนาคตคือความสามารถในการค้นหาข้อมูลและเก็บข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ข้อมูลที่อยู่ในระบบจะไม่ซ้ำซ้อนและสะดวกในการค้นหา นอกจากนั้นสำนักงานในอนาคตจะใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเครื่องใช้ และการออกแบบขั้นตอนการปฏิบัติงาน เพื่อง่ายต่อการตัดสินใจในเรื่องการบริหารจัดการ สำนักงานในอนาคตจะช่วยในการประหยัดพลังงาน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่รัฐบาลได้ออกกฏเกี่ยวกับขอบข่ายการประหยัดพลังงานมาใช้ พลังงานที่เราต้องช่วยกันประหยัดส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับ พลังงานความร้อน ความเย็น แสงสว่าง และน้ำ
เป็นต้น สำหรับสำนักงานในอนาคตก็เช่นกัน จะมีการนำเทคนิคในการประหยัดพลังงานมาใช้อย่างเป็นรูปแบบสากลเนื่องจากเครื่องมือเครื่องใช้ของสำนักงานในอนาคตมีเทคโนโลยีสูง ทำให้บุคลากรขององค์การสามารถนั่งทำงานอยู่ที่บ้านได้ โดยการใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกับระบบใหญ่ในสำนักงาน วิธีการนี้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของสำนักงานและตัวพนักงานเองส่วนผู้บริหารก็เช่นกัน เพียงแต่ติดตั้งจอคอมพิวเตอร์สำหรับรับข้อมูลจากสำนักงานมาดูที่บ้านเท่านั้น ก็สามารถทำงานได้


(3) องค์ประกอบของสำนักงานอัตโนมัติ?


              องค์ประกอบของสำนักงานอัตโนมัติ หรือสำนักงานสมัยใหม่ สำนักงานอัตโนมัติก็คือสำนักงานประเภทหนึ่ง สิ่งที่ทำให้มีความแตกต่างจากสำนักงานทั่วไปคือการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาเชื่อมต่อการปฏิบัติงานกับสารสนเทศของพนักงานและผู้บริหารดังนั้นองค์ประกอบของสำนักงานอัตโนมัติจึงไม่ได้แตกต่างไปจากสำนักงานธรรมดาซึ่งประกอบด้วย บุคลากร กระบวนการปฏิบัติงาน เอกสารข้อมูล สารสนเทศ เทคโนโลยี การบริหารจัดการ
ถ้าจะพิจารณาองค์ประกอบของสำนักงานแล้ว สามารถพิจารณาออกได้เป็น 2 ประเภทคือ สิ่งแวดล้อมภายนอกสำนักงาน และสิ่งแวดล้อมภายในสำนักงาน ฉะนั้นผู้บริหารสำนักงานอัตโนมัติจะต้องเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมทั้ง 2 ประเภทนี้ โดยต้องปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามความต้องการของผู้ปฏิบัติงานในสำนักงานนั้น ๆ ดังนี้



(4) ประเภทของระบบสารสนเทศสำนักงาน?


   ระบบการจัดการเอกสาร (Document management system) 

- ระบบการประมวลผลคำ (Word processing systems) 
- การจัดพิมพ์ตั้งโต๊ะ (Desktop publishing) 
- ระบบการประมวลภาพ (Image processing systems) 
- การทำสำเนา (Reprographics) 
- หน่วยเก็บข้อมูลถาวร (Archival storage) 

  2 ระบบการจัดการข่าวสาร (Message-handling systems) 

- ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic mail) 
- ไปรษณีย์เสียง (Voice mail) 
- โทรสาร (Facsimile) 

  3 ระบบประชุมทางไกล (Teleconferencing system)

- การประชุมด้วยเสียง (Audio teleconferencing) 
- การประชุมด้วยภาพ (Video teleconferencing) 
- การประชุมด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer conferencing) 
- โทรศัพท์ภายใน (In-house television) 
- การทำงานทางไกล (Telecommuting) 
  
4 ระบบสนับสนุนสำนักงาน (Office support systems)                     
 ซึ่งระบบจำเป็นจะต้องอาศัยโปรแกรมทางคอมพิวเต
  เทคโนโลยีใหม่ ๆ ทางฮาร์ดแวร์เข้ามาช่วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสำนักงานยุคใหม่
- โปรแกรมเครือข่าย (Group ware) 
- โปรแกรมตั้งโต๊ะอเนกประสงค์ (Desktop organizers) 




compt03a.gif compt03a.gif compt03a.gif compt03a.gif


http://school.obec.go.th/t3udon/oa1.htm



วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสำนักงาน

       



เทคโนโลยีสำนักงาน



ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสำนักงาน

เรื่องสำนักงานสาระสำคัญสำนักงาน หมายถึง สถานที่ที่บุคคลหรือเจ้าของใช้ประกอบกิจกรรมของ
องค์กร ให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ สำนักงานใหญ่หรือเล็กขึ้นอยู่กับกิจกรรมขององค์กรนั้น ๆ ภายในสำนักงานจะต้องมีบุคลากร เครื่องมืออุปกรณ์ และระบบสารสนเทศต่าง ๆ เพื่อเอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติงานให้ประสบความสำเร็จสาระการเรียนรู้

1. ความหมายของสำนักงาน

2. วัตถุประสงค์ของสำนักงาน

3. ประเภทของงานในสำนักงาน

4. บุคลากรในสำนักงาน


ความหมายของสำนักงาน สำนักงาน คือ

สถานที่ตั้งของหน่วยซึ่งปฏิบัติงานเกี่ยวกับการควบคุมการงานของธุรกิจและเป็นสถานที่ซึ่งมีการจัดทำเอกสารและการปฏิบัติการเกี่ยวกับเอกสารเหล่านั้น เพื่อวัตถุประสงค์ในการควบคุมการประมวลเหตุการณ์และการดำเนินงานด้วยประสิทธิภาพเนื่องด้วยกิจกรรมเกี่ยวกับเอกสารต่าง ๆนั้นเกิดขึ้นได้ทั่วไป คือ สถานที่ที่มีการปฏิบัติงานเอกสารมากเป็นพิเศษเท่านั้น เป็นการจำกัดความหมายของสำนักงานให้แคบเข้าและก่อให้เกิดปัญหาในการควบคุมการปฏิบัติงานเกี่ยวกับเอกสาร เราไม่อาจแบ่งสำนักงานออกเป็นหน่วยๆได้ พนักงานทุกคนต้องปฏิบัติงานสำนักงานบ้างไม่มากก็น้อยเช่น การเก็บเอกสาร การโต้ตอบจดหมาย การคำนวณและการบันทึกต่างๆสิ่งที่กล่าวมานี้เป็นความจริงที่เกิดขึ้นได้ในธุรกิจต่างๆ ทุกแห่งและในทุกระดับนับแต่ระดับผู้บริหารลงมาจนถึงระดับภารโรง การปฏิบัติงานเอกสารจะมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ถ้าเรามองสำนักงานจากแง่ หน้าที่งาน (Function) หรือ กิจกรรม ยิ่งกว่าจากแง่ สถานที่ ในฐานะที่เป็นหน้าที่งานหรือกิจกรรมอย่างหนึ่ง สำนักงานจะสามารถจัดวางรูปประสาน วางมาตรฐานและดูแลการปฏิบัติงานเอกสารได้ในสถานที่ต่างๆ



สำนักงานอัตโนมัติ
หมายถึง การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ภายในสำนักงาน เพื่อให้ดำเนินการไปโดยอัตโนมัติ หลีกเลี่ยงการปฏิบัติด้วยมือให้มากที่สุด เป็นต้นว่า การทำจดหมายเวียน (ข้อความในจดหมายเหมือน ๆ กัน แต่ส่งถึงชื่อคนหลายคน) ในกรณีนี้


องค์ประกอบของสำนักงานสมัยใหม่สาระสำคัญ

องค์ประกอบของสำนักงานอัตโนมัติ หรือสำนักงานสมัยใหม่ สำนักงานอัตโนมัติก็คือสำนักงานประเภทหนึ่ง สิ่งที่ทำให้มีความแตกต่างจากสำนักงานทั่วไปคือการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาเชื่อมต่อการปฏิบัติงานกับสารสนเทศของพนักงานและผู้บริหารดังนั้นองค์ประกอบของสำนักงานอัตโนมัติจึงไม่ได้แตกต่างไปจากสำนักงานธรรมดาซึ่งประกอบด้วย บุคลากร กระบวนการปฏิบัติงาน เอกสารข้อมูล สารสนเทศ เทคโนโลยี การบริหารจัดการ
ถ้าจะพิจารณาองค์ประกอบของสำนักงานแล้ว สามารถพิจารณาออกได้เป็น 2 ประเภทคือ สิ่งแวดล้อมภายนอกสำนักงาน และสิ่งแวดล้อมภายในสำนักงาน ฉะนั้นผู้บริหารสำนักงานอัตโนมัติจะต้องเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมทั้ง 2 ประเภทนี้ โดยต้องปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามความต้องการของผู้ปฏิบัติงานในสำนักงานนั้น ๆ ดังนี้





รูปแบบสำนักงานสมัยใหม่


รูปแบบสำนักงานสมัยใหม่
ลักษณะสำคัญของสำนักงานสมัยใหม่สำนักงานสมัยใหม่มีลักษณะสำคัญดังนี้
1.1 ผู้บริหารและพนักงานที่เกี่ยวข้องล้วนใช้คอมพิวเตอร์ที่
เชื่อมต่อกันเป็นระบบเครือข่ายขนาดเล็ก หรือระบบเครือ
ข่ายแลน

1.2 มีการวางแผนระบบแฟ้มข้อมูลอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้สามารถ
ค้นหาข้อมูลและเอกสารเอย่างรวดเร็ว
1.3 ผู้บริหารสนับสนุนการใช้ระบบสำนักงานสมัยใหม่และลงมือ
ทำเอง

1.4 ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ใช้ง่ายและเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้ง
องค์กร

1.5 อุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นมาตรฐานและทำงานร่วมกันได้

1.6 ระบบงานประยุกต์ต่าง ๆ ได้รับการติดตั้งหรือพัฒนาขึ้นให้
ตรงกับความต้องการของผู้ใช้


บทบาทและหน้าที่ของบุคลากรในสำนักงานใหม่
บุคลากรในสำนักงานสมัยใหม่ จะแบ่งออกเป็นหลาย ๆ กลุ่ม ดังนี้
2.1 ผู้บริหารระดับสูง เกิดความสนใจและสั่งให้ผู้เกี่ยวข้อง 
ดำเนินการจัดหา หรือพัฒนาระบบสำนักงานสมัยใหม่ขึ้นใน
กรณีเช่นนี้ผู้บริหารระดับสูงอาจได้มีโอกาสเห็นการปฏิบัติ
งานในสำนักงานสมัยใหม่ของหน่วยงานอื่น ๆ หรือได้ทราบ
รายละเอียดของจ้อมูลเกี่ยวดับสำนักงานสมัยใหม่มาจากผู้
อื่น

 2.2 ผู้บริหารระดับกลางและผู้ปฏิบัติระดับต่าง ๆ อาจเป็นผู้เสนอ
ให้มีการจัดทำสำนักงานสมัยใหม่ขึ้นอาจจะเป็นเพราะว่า
หน่วยงานของตนสมควรปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีสำนักงาน
สมัยใหม่มากขึ้น หรือเพราะได้รับการแนะนำจากผู้ขาย
สินค้าทางด้านสำนักงานสมัยใหม่ก็ได้ เมื่อผู้บริหารหรือผู้
ปฏิบัติงานเหล่านี้เกิดความคิดขึ้นมาแล้วก็อาจนำเรื่องนี้
เสนอต่อผู้บริหารระดับสูงหรือนำเข้าไปบรรจุไว้ในแผนการ
ดำเนินงานด้านคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานก็ได้

2.3 นักคอมพิวเตอร์และรักเทคโนโลยีอื่น ๆ ในบางกรณีผู้เสนอ
แนะให้หน่วยงานพัฒนาระบบสำนักงานเทคโนโลยีใหม่ขึ้น
ก็อาจจะเป็นนักเทคโนโลยีของหน่วยงานตนเองเพราะนัก
เทคโนโลยีเหล่านี้มักจะได้ทีโอกาสใกล้ชิดและเห็นความ
ก้าวหน้าของด้านเทคโนโลยีค่อนข้างมาก เมื่อเห็นแล้วก็
อาจจะอดไม่ได้ที่จะต้องคิดต้องการเปลี่ยนให้หน่วยงาย
ของตนเองมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้น เมื่อมีการเสนอ
ให้พัฒนาระบบสำนักงานสมัยใหม่ในหน่วยงานขึ้นแล้ว จะมี
กานดำเนินการต่อไป แต้จะต้องเป็นการดำเนินการแบบใด
นั้นขึ้นอยู่กับลักษณะของหน่วยงาน หากหน่วยงานนั้นมี
ศูนย์คอมพิวเตอร์อยู่แล้วก็จะมีแนวโน้มว่าศูนย์คอมพิวเตอร์
จะได้รับมอบหมาย ให้เป็นผู้ดำเนินการพัฒนาระบบ
สำนักงานสมัยใหม่ดีขึ้นแต่ถ้าหารหน่วยงานนั้นไม่มีศูนย์
คอมพิวเตอร์อาจเป็นไปได้ที่มีการมอบหมายให้หน่วยงานที่
เกี่ยวข้องกับงานสำนักงานอัตโนมัติมากที่สุดไปคิดดำเนิน
การ เช่น อาจจะให้หน่วยงานที่ทำหน้าที่ด้านการสื่อสาร
โทรคมนาคมไปวางแผนดำเนินการหรืออาจะมอบหมายให้
แผนกสารบรรณเป็นผู้ดำเนินการ หรือมิฉะนั้นอาจจะเป็นใคร
ก็ได้สุดแท้แต่ผู้บริหารระดับสูงจะเห็นเหมาะสม